ทำความรู้จักกับบอยเลอร์ หม้อไอน้ำที่ใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

ทำความรู้จักกับหม้อไอน้ำที่ใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

 

 

                 หม้อไอน้ำ (Steam Boiler) เป็นเครื่องจักรที่ได้รับความร้อนแล้วส่งผ่านไปยังน้ำที่อยู่ภายในหม้อไอน้ำ เปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไอ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะผลิตแค่ไอน้ำอิ่มตัว โดยส่งความร้อนตามท่อไปยังเครื่องจักรเพื่อให้ความร้อนของไอน้ำทำความร้อนหรือใช้ผลิตสินค้าต่างๆ การใช้ไอน้ำอิ่มตัวในขบวนการถ่ายเทความร้อนจะมีอุณหภูมิของเครื่องจักรคงที่ตลอดความยาวของเครื่องจักร ทำให้สินค้ามีคุณภาพที่คงที่หรือสินค้ามีการเสียหายน้อยกว่าการใช้ฮีตเตอร์ไฟฟ้าให้ความร้อนกับเครื่องจักรเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของฮีตเตอร์ นอกจากนั้นการซื้อไฟฟ้าในปริมาณมากจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงผลิตไอน้ำ

                 ดังนั้นจึงมีใช้หม้อไอน้ำกันทั่วไปใน โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น โดยหม้อไอน้ำจะมีการออกแบบหลายแบบ หลายชนิด ตามความเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ลักษณะหรือตามสภาวะของการผลิตไอน้ำหรือตามเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไอน้ำ

 

 

ชนิดและหลักการทำงานของหม้อไอน้ำ

 

 

1. หม้อไอน้ำชนิดท่อไฟ (Fire Tube Boiler)

 

 

หม้อไอน้ำ

 

 

      เป็นหม้อไอน้ำที่มีโครงสร้างง่ายๆ ซึ่งใช้กันมากทั่วโลก โดยความร้อนจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ จะถูกส่งไปในท่อเหล็กจำนวนมากที่เรียกว่าท่อไฟซึ่งประกอบตามความยาวของหม้อน้ำ ทำให้น้ำโดยรอบท่อนั้นเดือดและเปลี่ยนสภาพน้ำกลายเป็นไอน้ำ หม้อไอน้ำชนิดนี้มีการใช้งานใน โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานกระดาษ โรงงานอาหาร โรงงานผลไม้กระป๋อง โรงงานเครื่องดื่ม โรงงานพลาสติก โรงงานเครื่องสำอาง โรงงานอิเล็กโทรนิค โรงงานทอผ้าฟ้อกย้อม เป็นต้น

 

 

ข้อดี-ของหม้อไอน้ำแบบท่อไฟ

 

 

       - การออกแบบเรียบง่าย

       - มีปริมาณของน้ำมาก ทำให้ความดันไอน้ำค่อนข้างนิ่ง อุณหภูมิจึงนิ่งคงที่ตามความดันไอน้ำ

       - ไม่ต้องการน้ำที่มีคุณภาพที่ดีมากนัก หม้อน้ำจึงยังไม่เสียหายเมื่อการควบคุมคุณภาพน้ำมีความผิดพลาด

       - มีขนาด 0.1 - 30 ตันไอน้ำ/ชั่วโมง ความดัน 10 – 20 บาร์

 

 

ข้อเสีย-หม้อไอน้ำแบบท่อไฟ

 

 

       - เกิดไอน้ำช้า ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

       - น้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับหม้อไอน้ำแบบอื่นๆในขนาดเดียวกัน

       - กรณีระเบิด อันตรายมากกว่า เนื่องจากมีน้ำสะสมมากกว่า

       - ไม่สามารถผลิตไอน้ำยิ่งยวดได้

 

 

2. หม้อไอน้ำชนิดท่อน้ำ (Water Tube Boiler)

 

 

หม้อไอน้ำ

 

 

      Water tube boiler ประกอบด้วยท่อน้ำจำนวนมาก ซึ่งมีน้ำไหลอยู่ภายในท่อน้ำกับ Drum ก๊าซเผาไหม้จะให้ความร้อนแก่น้ำในท่อจากภายนอกท่อทำให้เกิดไอน้ำ หม้อไอน้ำแบบนี้สามารถจัดเรียงท่อน้ำเพิ่มมากขึ้นจำนวนหลายๆ แถว เพื่อเพิ่มพื้นที่การถ่ายเทความร้อนให้มากขึ้น จึงสามารถเพิ่มขนาดหม้อไอน้ำได้ใหญ่พอที่จะผลิตไอน้ำปริมาณมากๆ

 

 

ข้อดี-หม้อไอน้ำแบบท่อน้ำ

 

 

       - สามารถออกแบบให้ผลิตไอน้ำความดันสูงมาก เพราะโครงสร้างรับความดันของท่อน้ำและ Drum มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่าหม้อไอน้ำแบบท่อไฟ จึงเหมาะกับขบวนการผลิตที่ต้องการใช้ความดันหรืออุณหภูมิสูงมากๆ

       - สามารถผลิตไอน้ำยิ่งยวดได้

       - มีขนาดใหญ่กว่าหม้อน้ำแบบอื่นๆ

       - มีขนาด 5 - 200 ตันไอน้ำ/ชั่วโมง ความดัน 18 – 250 บาร์

 

 

ข้อเสีย-หม้อไอน้ำแบบท่อน้ำ

 

 

       - ต้องใช้น้ำที่มีคุณภาพสูงมาก จึงต้องมีระบบบำบัดน้ำที่ซับซ้อนและดีมาก

       - หม้อน้ำอาจจะเสียหายเมื่อการควบคุมคุณภาพน้ำผิดพลาด

       - เมื่อภาระไอน้ำเปลี่ยนแปลงไป ความดันและอุณหภูมิของไอน้ำจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก

       - เนื่องจากมีห้องเก็บไอน้ำเล็ก จึงเกิดน้ำปนไปกับไอน้ำได้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการใช้ไอน้ำอย่างรวดเร็ว

       - มีโครงสร้างซับซ้อน ซ่อมแซมยากและใช้เวลานาน

 

 

3. หม้อน้ำแบบไหลผ่านทางเดียว (Once Through Boiler)

 

 

 

 

    บอยเลอร์เชื้อเพลิงแข็ง   Once Through Boiler เป็นหม้อไอน้ำแบบท่อน้ำทรงตั้ง ที่มีท่อน้ำหลายท่อเรียงเป็นวงกลมคล้ายกรงนก แต่ระดับน้ำจะมีเพียงบางส่วนของท่อน้ำไม่สูงจนเต็มท่วมท่อน้ำทั้งท่อ ทำให้ไอน้ำที่อยู่ส่วนบนของท่อได้รับความร้อนเพิ่มขึ้นด้วยจนเป็นไอน้ำยิ่งยวด ไอน้ำจึงมีความแห้งมากขึ้น น้ำเลี้ยงจากปั๊มน้ำไหลขึ้นผ่านท่อน้ำยาวต่อเนื่องในท่อเพียงครั้งเดียว จึงไม่มีการหมุนเวียนของน้ำในท่อ

 

 

ข้อดี-หม้อน้ำแบบไหลผ่านทางเดียว

 

 

       - มีขนาดเล็ก น้ำหนักน้อยกว่า ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยกว่า

       - มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะให้อุปกรณ์อุ่นน้ำ( Economizer)ขนาดใหญ่มาให้ด้วย

       - มีขนาด 0.5 - 6 ตันไอน้ำ/ชั่วโมง ความดัน 9.8 – 32 บาร์

 

 

ข้อเสีย-หม้อน้ำแบบไหลผ่านทางเดียว

 

 

       - หม้อน้ำมีตะกรันไม่ได้เลยแม้บางๆ ต้องใช้น้ำที่มีคุณภาพสูงมาก จึงต้องมีระบบบำบัดน้ำที่ดีมาก หม้อน้ำอาจจะเสียหายทันทีเมื่อการควบคุมคุณภาพน้ำผิดพลาด

       - ต้องใช้น้ำยาเคมีมาก ต้องมีการระบายน้ำต่อเนื่องตลอดเวลา

       - ความดันและอุณหภูมิของไอน้ำจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก

       - อายุหม้อน้ำสั้น เพราะเกิดความเครียดในเหล็กจากความดันที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดเวลา

       - ไม่ควรใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเตา เพราะจะจุดไม่ค่อยติด

 

 

4. หม้อน้ำไฟฟ้า

 

 

      หม้อน้ำไฟฟ้าใช้กระแสไฟฟ้าเป็นพลังงานผลิดไอน้ำ มี 2 ประเภทคือ

 

 

       - หม้อน้ำแบบใช้ไส้ฮีตเตอร์โวลต์ต่ำให้ความร้อน( 220 - 600 V)

       - หม้อน้ำแบบใช้แท่งอิเล็กโทรดโวลต์สูง ให้น้ำเป็นความต้านทานไฟฟ้าเกิดความร้อนผลิตไอน้ำ (4–25 kV)

 

 

 

 

ข้อดี-หม้อน้ำไฟฟ้า

 

 

       - สะอาด เพราะไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง

       - ไม่มีปล่องไฟ

       - แบบใช้ฮีตเตอร์ มีขนาด 0.02 - 3 ตันไอน้ำ/ชั่วโมง ความดัน 10 – 17 บาร์

       - แบบใช้แท่งอิเล็กโทรด มีขนาด 1.5 - 150 ตันไอน้ำ/ชั่วโมง ความดัน 10 – 31 บาร์

 

 

ข้อเสีย-หม้อน้ำไฟฟ้า

 

 

       - ค่าไฟฟ้าสูงกว่าเชื้อเพลิงแบบเผาไหม้

       - ไส้ฮีตเตอร์บวมแตกได้ ถ้ามีตะกรันหรือมีการกัดกร่อนจาก Oxygen Pitting เพราะผิวเหล็กไส้ฮีตเตอร์บาง

       - ไส้ฮีตเตอร์มีราคาแพง

 

 

       บริษัท บุญเยี่ยมและสหาย จำกัด ผู้นำด้านบอยเลอร์และหัวพ่นไฟอุตสาหกรรม เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ ยี่ห้อ Cleaver brooks, เครื่องกำเนิดไอน้ำ ยี่ห้อ Fulton, เครื่องกำเนิดไอน้ำ ยี่ห้อ Kawasaki, เครื่องทำน้ำร้อน ยี่ห้อ A.O.Smith, หัวพ่นไฟอุตสาหกรรม ยี่ห้อ Maxon, หัวพ่นไฟอุตสาหกรรม ยี่ห้อ Oilon, เคมีเพื่อการดูแลรักษาและปรับสภาพน้ำในระบบหม้อไอน้ำ ยี่ห้อ Tandex พร้อมมีบริการทั้งก่อนและหลังการขาย โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์

 

นำสินสปริง รับผลิตสปริงและจำหน่ายสปริงทุกชนิดแบบครบวงจร

         สปริง อย่างที่หลาย ๆ คนรู้จักไม่ว่าจะเป็น สปริงดึง,สปริงกด,สปริงดัด,สปริงดีด มีลักษณะเป็นลวดมีเส้นผ่าศูนย์กลาง มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่สปริงมีลักษณะรูปทรงกระบอกที่สามารถยืดหยุ่นได้เมื่อมี แรงกด แรงบีบ หรือแรงดึง และสามารถคืนตัวได้เร็วสปริงถูกนำมาใช้ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือแม้แต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ปากกา หัวปั๊ม ขวดบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมายถือได้ว่าสปริงมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน

 

ประเภทของสปริงที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ 


         สปริงดึง คือ สปริงที่มีลักษณะเป็นเกลียวหรือขด โดยปลายทั้ง 2 ด้านจะเป็นห่วงหรือตะขอเกี่ยวเพื่อยึดจับ สามารถยืดตัวออกเมื่อมีการดึง สปริงดึง ทำหน้าที่ในการรับแรงต้านหรือแรงดึง ซึ่งขนาดและรูปทรงขึ้นอยู่กับการออกแบบตามลักษณะการใช้งานเป็นหลัก

 


         สปริงกด คือ ลวดที่นำมาม้วนทำให้เป็นวงเกลียว จะอยู่ในลักษณะทรงกระบอก คุณสมบัติของสปริงกดมีความยืดหยุ่นคืนและสามารถคืนตัวกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีแรงกระทำ เช่น แรงกด แรงบีบ แรงกระแทก

 


         สปริงดัด งานดัดลวด คือ สปริงที่มีลักษณะรูปทรงที่เป็นอิสระ เป็นเส้นตรงหรือโค้งงอเป็นรูปทรง ไม่เป็นขดหรือเกลียวเหมือนสปริงชนิดอื่นๆ ซึ่งขนาดและรูปทรงขึ้นอยู่กับการออกแบบ ตามลักษณะการใช้งานเป็นหลัก ทำหน้าที่สำหรับงานที่รับแรงในแนวรอบวง

 


         สปริงดีด คือ สปริงที่ใช้สำหรับงานที่รับแรงกระทำในแนวเส้นรอบวง มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ Part ที่นำไปใช้ประกอบและตามลักษณะการใช้งาน คุณสมบัติพิเศษของสปริงดีด มีความซับซ้อนมากในการผลิตจะต้องใช้ JIG ช่วยในการผลิตชิ้นงาน

 


ผลิต และจำหน่ายสปริงอุตสาหกรรม คุณภาพดี ทุกประเภท

         บริษัท นำสิน สปริง จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2535 เพื่อผลิตสปริงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ ของเล่น และสปริงอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการผลิตสปริง ทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนสปริงที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีเยี่ยม โดยมีความเคร่งครัดในการควบคุมมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า
- ได้รับมาตรฐาน ยอมรับทั่วโลก ภายใต้การรับรองมาตรฐาน ระบบคุณภาพ ISO 9001:2015 และรองรับมาตรฐานคุณภาพสำหรับยานยนต์ สปริงดึง ISO/TS 16949
- มีช่างผู้ชำนาญ ผลิตสปริงด้วยเครื่องออโต้เมคิก และ CNC ที่มีประสิทธิภาพสูง
- รวมทั้งมีเครื่องทดสอบค่าสปริง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเมื่อนำชิ้นงานไปประกอบในสายการผลิต
- ทางบริษัทรับทำสปริงตั้งแต่ Compression Spring, Tension Spring, Torsion Spring, Wire Forming, Sheet Spring และ สปริงรูปแบบต่างๆ

 

สิ่งที่ท่านจะได้รับเมื่อเลือกซื้อสปริงกับ นำสิน สปริง


1. สินค้าได้รับมาตรฐาน
2. สินค้ามีความแข็งแรง คงทน
3. มีราคาที่ย่อมเยา
4. สปริงได้รองรับมาตรฐานคุณภาพสำหรับยานยนต์ ISO/TS 16949
5. สปริงแข็งแรง เกรดลวดคุณภาพ


         ดังนั้นหากสนใจสั่งผลิตสปริงทุกชนิด บริษัท นำสิน สปริง จำกัด ยินดีให้บริการ เป็นผู้ผลิตจัดจำหน่ายสปริงอุตสาหกรรมตามมาตรฐาน ISO ผลิตสปริงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ ดำเนินงานมาด้วยประสบการณ์อย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยทีมงานผู้ชำนาญงานในด้านสปริงและให้คำปรึกษาโดยเฉพาะส่งมอบงานตรงต่อเวลาชิ้นงานได้มาตรฐานเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตด้วยฝีมือประณีตได้ตรงมาตรฐานตามความต้องการของลูกค้า 

 


------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเลือกใช้สปริง
สปริงสามารถทำหน้าที่อะไรได้บ้าง ?
สปริงกดตัวช่วยรับน้ำหนักและลดแรงกระแทก หัวใจหลักขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรม 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

ทำไมต้องใช้ ยางไดอะแฟรม

       à¸¢à¸²à¸‡à¹„ดอะแฟรม ถือเป็นส่วนประกอบชิ้นนึงของไดอะแฟรมปั้ม (Diaphragm Pump) เนื่องจากปั้มจะสูบจ่ายของเหลวที่มีความเป็นกรด-ด่างสูง, ของเหลวที่มีความหนืด หรือของเหลวที่มีตะกอนปนอยู่ด้วย โดยตัวปั้มจะส่งกำลังผ่านแผ่นยางไดอะแฟรม (Diaphragm Rubber) และแผ่นยางไดอะแฟรม มีหน้าที่ตัดแยกระบบของฝั่งเครื่องจักรออกจากฝั่งของเหล็ก เพื่อไม่ให้ของเหลวสัมผัสกับชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ของปั้มโดยตรง 

 

ปั้มไดอะแฟรมประกอบด้วย


1. à¹à¸œà¹ˆà¸™à¸¢à¸²à¸‡à¹„ดอะแฟรม (Diaphragm Rubber)  โดยส่วนมากนิยมใช้เป็นแผ่นยางไดอะแฟรมแบบชิ้นเดียว (Single Diaphragm rubber) และแผ่นยางไดอะแฟรมแบบ 2 ชิ้น (Double Diaphragm rubber) เพื่อสลับกันผลักไป-กลับด้วยแรงกดอากาศ ยางไดอะแฟรมฝั่งหนึ่งจะถูกดึงเข้าสู่แกนกลาง ส่งผลให้ของเหลวถูกดูดเข้าไปในตัวปั้ม และยางไดอะแฟรมอีกฝั่งหนึ่งถูกผลักออกทำให้ของเหลวที่อยู่ในปั้มถูกผลักออกไปสู่ท่อออกต่อไป
2. เช็ควาล์ว (Check Valve) ทำหน้าที่ในการสร้างแรงดัน
3. ลูกสูบ (Plunger) ทำหน้าที่ในการส่งถ่ายกำลังจากมอเตอร์และชุดเกียร์
4. วาล์วระบายอากาศ (Air Release Valve) ทำหน้าที่ระบายอากาศออกจากห้องของเหลว
5. วาล์วเติมเต็ม (Replenishing Valve) ทำหน้าที่ระบายแรงดันบางส่วนออก เพื่อไม่ให้แผ่นยางไดอะแฟรมยางชำรุดหรือพังเสียหายจากภาระการใช้งานที่สูงเกินไป (Overload)
6. วาล์วตั้งค่าแรงดัน (Pressure Limiting Valve) ทำหน้าที่ตั้งค่าแรงดันของปั้มเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม


       à¸—ั้งนี้แผ่นยางไดอะแฟรม(Diaphragm Rubber)  à¹€à¸›à¹‡à¸™à¸§à¸±à¸ªà¸”ุที่สำคัญชิ้นหนึ่งสำหรับปั้มไดอะแฟรม สามารถชำรุดหรือเสียหายได้ หากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และเกินกำลัง จึงจำเป็นต้องมีการเลือกใช้ชนิดยางของยางไดอะแฟรมให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงรูปร่าง ลักษณะต่างๆ เช่น การเสริมผ้าใบเพื่อให้ยางไดอะแฟรมมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น, การเลือกใช้แผ่นไดอะแฟรมเทปล่อนเพื่อการทนทานต่อสารเคมีชนิดตัวทำละลายเข้มข้น เป็นต้น

 

ยางไดอะแฟรม คืออะไร

 

       à¹„ดอะแฟรมยาง คือ ยางที่มีหน้าที่ดูด-อัดของเหลว เป็นสโตรก ทำให้ยางไดอะแฟรมมีความยืดหยุ่นสามารถทนความดันและสารเคมีได้ดี ซึ่งบริษัท เอส พี พี อินดัสเตรียลรับเบอร์ จำกัด เราเป็นโรงงานผลิตไดอะแฟรมยางชั้นนำ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี 

 

ยางไดอะแฟรมแบ่งเป็น 8 ชนิด ได้แก่


       1.ไดอะแฟรมยาง à¸Šà¸™à¸´à¸”กลมแบน ปะเก็นยางซิลิโคน (Flat Diaphragm Rubber) มักใช้กับงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้กรูหรือน๊อตยึดกับหน้าแปลน เหมาะสำหรับกับใช้งานที่ต้องรับแรงดัน สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar)    

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง


       2. à¹„ดอะแฟรมยาง ชนิดปะเก็น (Gasket Diaphragm Rubber) มักใช้กับงานที่จำเป็นต้องใช้สกรูหรือน๊อตเป็นตัวยึดติดกับหน้าแปลน เหมาะสำหรับกับใช้งานที่ต้องรับแรงดัน สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar) 
 

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง

 

 


 

      3. à¹„ดอะแฟรมยาง ชนิดโค้งนูน (Rolling Diaphragm Rubber) มักใช้กับงานที่จำเป็นต้องใช้สกรูหรือน๊อตยึดต่างระดับกันกับหน้าแปลนเครื่อง โดยรูในอาจจะสูง หรือเตี้ยกว่า รูรอบๆด้านข้าง ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเครื่องจักรในแต่ละรุ่น สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar)

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง

 

 


 

       4. à¹„ดอะแฟรมยาง à¸£à¸¹à¸›à¸–้วย (Cap Diaphragm rubber) มักใช้กับงานที่ต้องทนแรงดันโดยหน้าแปลนหรือโครงสร้างของเครื่องจักรมีความต่างระดับสูง ไดอะแฟรมลักษณะนี้จะทนแรงดันได้ไม่มากนัก ซึ่งนับเป็นไดอะแฟรมยาง ที่ผลิตยากที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีความบางของชั้นเนื้อยางและผ้าใบมาก พร้อมกับรูปทรงที่สูงเหมือนรูปถ้วย สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar)·        

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง


       5. à¹„ดอะแฟรมยาง à¸£à¸¹à¸›à¸ˆà¸²à¸™ (Plate Diaphragm Rubber) มักใช้กับงานที่ต้องทนแรงดันของเครื่องที่มีโครงสร้างเป็นแบบพื้นที่กว้าง และสูงเล็กน้อย ตามโครงสร้างของเครื่องจักรในแต่ละรุ่น สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar)
 

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง


        6.ไดอะแฟรมยาง ติดเทปล่อน (Diaphragm rubber bonded with Teflon) มักใช้กับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี หรือ กรด-ด่างชนิดต่างๆ โดยด้านหนึ่งจะเป็นเนื้อยางและอีกด้านหนึ่งประกบกับเทปล่อน (PTFE)
 

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง


       7. à¹„ดอะแฟรมยาง โซลินอยด์วาล์ว ประกอบแสตนเลส และทองเหลือง (Diaphragm Rubber for Solenoid Valve)
 

 

·      

 

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง

 

 


 

       8. à¹„ดอะแฟรมยาง ตามแบบ (Custom Diaphragm rubber) ลักษณะไดอะแฟรมยางจะเป็นตามรูปแบบโครงสร้างของเครื่องจักรในแต่ละรุ่น ซึ่งมีขนาดพิเศษ และลักษณะแตกต่างกับไดอะแฟรมยางทั่วไป สามารถเสริมผ้าใบได้ ตั้งแต่ 1 ชั้น เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากค่าแรงดัน (Psi / Mpa / Bar)

 

 
 

ไดอะแฟรมยาง


 

     

       à¸”ังนั้นหากกำลังมองหาบริษัทรับผลิตยางอะไหล่เครื่องจักรทุกชนิด à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— เอส พี พี อินดัสเตรียลรับเบอร์ จำกัด à¸£à¸±à¸šà¸œà¸¥à¸´à¸•à¸¢à¸²à¸‡à¸—ี่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ได้แก่ โอริงซิลิโคน ปะเก็นยางซิลิโคน โอริงไวตัน ซีลยางไวตัน ซีลยางซิลิโคน ยางไดอะแฟรม ไดอะแฟรมยาง ยางซิลิโคน ยางกันกระแทก ท่อยาง ยางดูด ยางครอบหม้อแปลง ยางแผ่น หล่อลูกกลิ้ง ยางบัตเตอร์ฟลายวาล์ว เป็นต้น สนใจสั่งผลิตยางหรือสินค้าต่าง ๆ  คลิก

 

ไดอะแฟรมยาง


-----------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง 
โอริง คืออะไร ?
โอริงซิลิโคนคืออะไร มีคุณสมบัติที่สำคัญอะไรบ้าง
ยางกันกระแทก มีลักษณะการใช้งานอย่างไร  

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)เทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) คืออะไร

 

แขนกลหุ่นยนต์


        à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) คือ เครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เนื่องจากเป็นเครื่องจักรถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยทุ่นแรงในการผลิตสินค้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มีความแม่นยำ แถมยังเป็นตัวช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้เป็นอย่างดี โดยแขนกลหุ่นยนต์นั่นมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ จะถูกสั่งการควบคุมระบบอัตโนมัติด้วยโดยมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์เป็นที่นิยมสำหรับโรงงานเป็นอย่างมาก เพราะสามารถนำมาใช้กับอุตสาหกรรมได้หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นต้น

 

ข้อดีของแขนกลหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ 


1. à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์มีเป็นเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัย ตอบโจทย์กกรใช้งานในยุคปัจจุบันเพราะมีความแม่นยำและความเที่ยงตรงในการทำงาน
2. à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์มีความสามารถในการทำงานในกระบวนการซ้ำๆ ได้เป็นอย่างดี
3. à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการทำงานได้หลากหลายรูปให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจนั้นๆ
4. แขนกลหุ่นยนต์สามารถประยุกต์ใช้งานได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม
• à¸‡à¸²à¸™à¸«à¸™à¸±à¸à¹†
• à¸‡à¸²à¸™à¸ªà¸à¸›à¸£à¸
• à¸‡à¸²à¸™à¸­à¸±à¸™à¸•à¸£à¸²à¸¢
• à¸‡à¸²à¸™à¸ªà¸²à¸£à¹€à¸„มี

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ ได้แก่


1. à¹‚ครงสร้างคาร์ทีเซียน หรือฉาก (cartesian or rectangular) เป็นโครงสร้างที่วางตั้งฉาก 3 ส่วน ซึ่งทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดที่ต้องการได้ โดยโครงสร้างคาร์ทีเซียน จะมีการเคลื่อนที่ของแกนการทำงานทั้งสามแกน จะตั้งฉากกัน industrial robot ทำให้เห็นถึงหุ่นยนต์ระบบลมในงานเจาะ
2. à¹‚ครงสร้างทรงกระบอก (cylindrical)
เป็นโครงสร้างที่มีแขนเกาะกับแกนกลางเป็นหลัก ซึ่งแขนนั้นสามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงหมุนรอบแกนได้ และแขนสามารถบิดและหดได้ตามแนวแกนเสาที่รองรับสามารถขึ้นลงได้ตามระดับความที่ต้องการ
3. à¹‚ครงสร้างเชิงขั้ว (polar) มีลำตัวที่บิดได้ มีแขนที่หมุนและยืดหดได้ตามระดับความที่ต้องการ
4. à¹‚ครงสร้างมนุษย์ (antropomorphic)
เป็นโครงสร้างที่เลียนแบบโครงสร้างของมนุษย์ มีลักษณะเป็นส่วนบนของลำตัวมนุษย์ ประกอบด้วย หัวไหล่ แขนท่อนบน แขนท่อนล่าง ข้อมือและ มือโครงสร้างมนุษย์ และลักษณะการเคลื่อนที่ด้วยระบบไฮโดรลิกส์และระบบเซอร์โวมอเตอร์กระแสตร

 

แขนกลหุ่นยนต์

 

 

แขนกลหุ่นยนต์สามารถประยุกต์ใช้กับงานประเภทใดบ้าง         


1. à¸‡à¸²à¸™à¹€à¸„ลื่อนย้ายวัตถุหรือชิ้นงาน (Pick & Place) เป็นการนำแขนกลหุ่นยนต์ มาประยุกต์ใช้เพื่อขนย้ายวัตถุหรือชิ้นงานสามารถเคลื่อนย้ายได้ตามตำแหน่งที่ต้องการมีความแม่นยำและมีความเร็วสูงและคงที่
2. à¸‡à¸²à¸™à¸›à¸£à¸°à¸à¸­à¸šà¸Šà¸´à¹‰à¸™à¸‡à¸²à¸™ (Assembly) เป็นการประกอบชิ้นงานโดยการนำวัตถุหรือชิ้นส่วนไปประกอบกับชิ้นส่วนเข้าด้วย เช่น การวางประกบเข้ากัน การขันสกรู ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์
3. การคัดแยกหรือจัดเรียงชิ้นงาน (sorting) เป็นการจัดระเบียบควบคุมจะสั่งให้แขนกลหยิบชิ้นงานชิ้น ไปวางใน ตำแหน่งที่ถูกต้อง จัดเรียงบนสายพานให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน
  

 

ime    


        à¸”ังนั้นหากต้องการออกแบบ ผลิต ติดตั้งและปรับปรุงเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น แขนกลหุ่นยนต์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน

สนใจติดต่อ
http://imerevolution.com
https://imerevolution.brandexdirectory.com
https://imerevolution.pagesthai.com
https://imerevolution.brand.co.th

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก


 

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15